6 เคล็ดลับการวางแผนสืบทอดธุรกิจครอบครัว

6-เคล็ดลับวางแผนสืบทอดธุรกิจ

การส่งมอบธุรกิจธุรกิจควรทำในช่วงเวลาที่เหมาะสม และไม่ควรจะรีบทำเร็วเกินไป หากยังไม่มีการวางแผนที่ดี หรือไม่มีการเตรียมการล่วงหน้า ที่ผ่านมาเราคงจะเห็นหลายครอบครัวที่ผู้นำธุรกิจไม่ยอมวางมือปล่อยให้ลูกหลานขึ้นมารับผิดชอบแทนแม้จะอายุมากแล้ว เนื่องจากยังมีความไม่ไว้ใจหรือเชื่อมั่นพอว่าธุรกิจที่สร้างขึ้นจากน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง จะได้รับการสืบทอดด้วยดีจากทายาท หรือมีความกังวลในการเลือกตัวผู้สืบทอด ซึ่งทั้งหมดนี้เกิดขึ้นมาก็เพราะไม่ได้มีการเตรียมการวางแผนสืบทอด (Succession Plan) ไว้แต่เนิ่น ๆ นั่นเอง

จากประสบการณ์ของทีมงานสมาคมประกอบการธุรกิจครอบครัว AFBE ที่เราได้มีการให้คำปรึกษาจัดทำธรรมนูญครอบครัวแก่ครอบครัวไทยมากกว่า 40 ครอบครัวในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เรามีข้อแนะนำดังต่อไปนี้

1. ควรเริ่มวางแผนสืบทอด และเริ่มลงมือทำให้เร็วที่สุด

โดยเปิดโอกาสให้ลูก ๆ ได้รับรู้เรื่องธุรกิจตั้งแต่ยังเด็ก และปลูกฝังประสบการณ์ที่ดีให้ซึมซับตลอดเวลา หลายครอบครัวลูก ๆ จะได้ของเล่นที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจที่ทำ และปลูกฝังเรื่อยมาจนโต  ดีกว่าต้องให้ลูกตั้งคำถามตอนโตว่า ใครเป็นคนได้หุ้น ใครได้เป็นผู้นำ ซึ่งถ้าไม่ได้มีการวางแผนไว้ล่วงหน้า 2 คำถามนี้จะหาคำตอบได้ยากที่สุด และอาจทำให้เกิดกรณีพิพาทได้หากลูก ๆ ไม่ได้ตามที่ตัวเองคิดหรือหวังไว้   โดยถ้ามีการวางแผนไว้ล่วงหน้า หรือมีข้อตกลงบางอย่างให้รับทราบกันไว้ก่อน ก็จะช่วยลดการปะทะระหว่างกันเมื่อถึงเวลาต้องตัดสินใจ

กล่าวโดยสรุปแล้วการวางแผนสืบทอดควรเริ่ม:

  • ปลูกฝังลูก ๆ ตั้งแต่ยังเด็ก ๆ ให้รับรู้ธุรกิจที่ครอบครัวดำเนินการอยู่
  • ให้ลูกเข้ามาฝึกงานในช่วงปิดเทอม ทั้งการทำงานในแผนกต่าง ๆ การตั้งโจทย์ให้ลูก ๆ เข้าไปรับผิดชอบ การจำลองตั้งคณะกรรมการธุรกิจกรณีมีลูกหลานหลายคนเพื่อวางแผนตามที่ได้มอบหมาย
  • การสร้างทีมเวิร์คระหว่างพี่น้อง การทำ Coaching พี่สอนน้อง
  • การพูดคุยในโต๊ะอาหาร
FIRM

การปลูกฝังให้ลูกได้ซึมซับในธุรกิจของครอบครัวมีความสำคัญอย่างมาก เรามีกรณีตัวอย่างของครอบครัวหนึ่งที่สมาชิกรุ่นที่ 3 ซึ่งกำลังเรียนจบและถูกวางตัวให้เป็นผู้สืบทอดธุรกิจคนต่อไปต่อจากพ่อ  โดยรู้ตัวดีว่าจะต้องเข้ามารับช่วงธุรกิจของตระกูลต่อจากพ่อ แต่ถ้าจะให้เลือกจริง ๆ ตอนนี้เขาอยากทำธุรกิจของแม่มากกว่า

ที่มาที่ไปของเรื่องนี้คือสมาชิกท่านนี้ในตอนเด็ก ๆ พ่อทำงานหนักจึงไม่มีเวลาเลี้ยงดู ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของแม่ ในขณะที่แม่เองก็มีหน้าที่ดูแลธุรกิจครอบครัวของที่บ้านอยู่ด้วย แม่เลยต้องพาลูก ๆ ไปวิ่งเล่นอยู่ที่โรงงานของครอบครัวของแม่ ทุก ๆ วันหลังเวลาเลิกเรียน ลูก ๆ เลยได้ซึมซับธุรกิจทางฝั่งครอบครัวของแม่อยู่ตลอดเวลา แถมยังได้ช่วยพนักงานทำบัญชีอีก

ขณะที่อีกครอบครัวหนึ่ง เมื่อถึงเวลาที่จะต้องเข้ามาทำจริงจัง ลูกรู้สึกอายเพื่อนว่า ธุรกิจของครอบครัวไม่ทันสมัยเหมือนของเพื่อน ๆ แต่ด้วยการปลูกฝังและเห็นพ่อทำงานหนักตั้งแต่ยังเล็ก จึงอดทนทำต่อและทุกวันนี้ก็ยืดอกยอมรับว่า รักและภูมิใจในธุรกิจครอบครัวมาก

2. สร้างข้อตกลงภายในครอบครัว

ควรมีการทำข้อตกลงในเรื่องแผนการสืบทอดธุรกิจ แผนการจ้างงาน

แผนการเติบโตในหน้าที่การงาน และผลตอบแทนต่าง ๆ ที่จะได้รับในการทำงาน ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของหัวข้อสำคัญในธรรมนูญครอบครัว โดยเมื่อสร้างข้อตกลงได้แล้วให้แจ้งแก่สมาชิกทุกคนได้ทราบในรายละเอียดทั้งหมด

ซึ่งแผนงานนี้จะลงรายละเอียดตั้งแต่สมาชิกครอบครัวใครบ้างที่มีคุณสมบัติในการเข้ามาทำงาน เติบโต จากระดับปฏิบัติการจนถึงระดับบริหาร และสามารถขึ้นเป็นผู้นำในธุรกิจครอบครัวได้ เพื่อความละเอียด ครอบคลุม และสามารถนำมาใช้ได้จริงเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย ควรให้ที่ปรึกษาที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะในด้านนี้ให้คำแนะนำจะช่วยได้มาก

ทั้งนี้เมื่อสมาชิกครอบครัวจบการศึกษาและมีความสนใจในธุรกิจครอบครัว ไม่ได้หมายความว่าจะสามารถเดินเข้ามาทำงานได้เลย สมาชิกจะต้องศึกษาข้อตกลงในธรรมนูญครอบครัวในหัวข้อ แผนจ้างงาน และแผนสืบทอดอย่างละเอียด ว่ามีการกำหนดเงื่อนไขคุณสมบัติการเข้ามาทำงานอย่างไรบ้าง ตัวอย่าง เช่น

  • จะต้องมีการศึกษาที่ดี และตรงกับที่บริษัทต้องการ
  • มีประสบการณ์งานจากภายนอกที่ไม่ได้รับความช่วยเหลือจากครอบครัวในระยะเวลาที่กำหนด
  • เคยสร้างธุรกิจด้วยตัวเอง ไม่ว่าจากเงินลงทุนของที่บ้าน หรือด้วยตนเอง
  • ถ้ามีความสามารถตรงตามที่บริษัทต้องการจะได้รับการพิจารณาในเรื่องผลตอบแทนพิเศษ

เราพบว่าในครอบครัวที่ไม่ได้มีการทำข้อตกลงกันมาก่อน สมาชิกครอบครัวที่จบการศึกษาแล้วส่วนใหญ่จะเข้ามาทำงานเลยเมื่อจบการศึกษา  เนื่องจากบางครอบครัวกลัวว่าหากปล่อยให้ลูก ๆ ไปทำงานข้างนอกก็อาจจะไม่กลับเข้ามาทำงานในธุรกิจของครอบครัว บางครอบครัวกลัวว่าจะเสียเวลา ไม่ทันได้เรียนรู้

จากการที่เราได้เข้าไปคุยและสัมผัสกับหลาย ๆ ครอบครัวเราพบว่า  สมาชิกที่มีประสบการณ์ทำงานข้างนอกมาก่อนกับสมาชิกที่ไม่เคยทำงานข้างนอก มักจะมีมุมมองหรือประสบการณ์ที่แตกต่างกัน สมาชิกที่ทำงานข้างนอกมาก่อนจะมีประสบการณ์มากกว่า และมีการนำวิธีการใหม่ ๆ มาใช้ในธุรกิจด้วย สมาชิกที่ไม่เคยทำงานข้างนอกเลยจะมีการเรียนรู้จากคนข้างในเท่านั้น และสมาชิกหลายคนก็ยังบอกว่าเสียดายที่เข้ามาทำงานในธุรกิจครอบครัวเร็วไป ยังไม่รู้ว่ารสชาติของการเป็นพนักงานที่ไม่มีสิทธิ์พิเศษว่าเป็นอย่างไร

3. สมาชิกครอบครัวควรได้รับการปฏิบัติเฉกเช่นพนักงานทั่วไป

เมื่อเข้ามาร่วมในธุรกิจครอบครัวแล้ว สมาชิกครอบครัวจะต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบ แสดงความสามารถด้วยตัวเอง และได้รับการปฏิบัติเฉกเช่นพนักงานทั่วไป

  • ต้องทำงานจริง รับผิดชอบจริง และอยู่บนพื้นฐานของเป้าหมายเดียวกับพนักงาน
  • ต้องมีการประเมินผลจริง หรือแบบ 360 องศา หรือมี KPI เดียวกันกับพนักงาน
  • ผลตอบแทนในรูปแบบต่าง ๆ จะต้องไม่มากกว่าพนักงานในตำแหน่งเดียวกัน
  • การเติบโตในหน้าที่การงานจะต้องเกิดจากความสามารถ และศักยภาพของตัวเองเท่านั้น

พบว่าหลายครอบครัวยังไม่ได้ยึดถือปฏิบัติในขั้นตอนนี้อย่างจริงจัง  เช่น ไม่มีการประเมินผลงานแบบพนักงานทั่วไป การปรับขึ้นเงินเดือนยังไม่อยู่ในระดับเดียวกับพนักงาน หรือได้รับสิทธิพิเศษบางประการ การปฏิบัติเช่นนี้อาจมีผลให้แนวทางการสืบทอดธุรกิจทำได้ไม่เต็มที่ และอาจขาดประสิทธิภาพ

อย่างไรก็ตามเราพบว่าในปัจจุบัน หลายครอบครัวได้ให้ความสำคัญในเรื่องนี้มากขึ้น เพราะมีความเข้าใจเป็นอย่างดีว่า หากต้องการให้ธุรกิจมีการเติบโตอย่างยั่งยืนและมีความเป็นมืออาชีพมากขึ้น จะต้องเฟ้นหาสมาชิกครอบครัวที่มีความสามารถจริง ๆ โดยหากไม่มีก็จะต้องหามืออาชีพมาทำงานแทน

4. การกำหนดผู้ตัดสินใจในเรื่องแผนสืบทอด

การกำหนดผู้ตัดสินใจในเรื่องแผนสืบทอด ควรต้องมีคณะกรรมการอย่างน้อย 2 คณะด้วยกันคือ

4.1 คณะกรรมการด้านธุรกิจ ซึ่งประกอบด้วยคณะกรรมการสมาชิกครอบครัว และผู้บริหารมืออาชีพ

4.2 สภาครอบครัว ที่จะช่วยในการพิจารณา เฟ้นหา ประเมินผล ลูกหลานของสมาชิกในแต่ละสายว่า ใครสมควรขึ้นมาเป็นผู้นำได้

5. การวางแผนเกษียณอายุ

ต้องมีการวางแผนสำหรับการเกษียณอายุของผู้นำ และต้องยึดถือเวลาอย่างแน่วแน่ การมีแผนเกษียณอายุผู้นำนั่นหมายถึงการมีแผนสืบทอด นั่นเอง กำหนดเวลาที่เหมาะสมที่จะก้าวลงจากตำแหน่งจะทำให้มีเวลาเตรียมตัวที่จะทำแผนส่งมอบแก่สมาชิกครอบครัว โดยผ่านกระบวนการสรรหาตามที่ได้ทำข้อตกลงกันในธรรมนูญครอบครัว

6. แผนรองรับกรณีสมาชิกครอบครัวยังไม่พร้อม

บางครั้งจังหวะเวลาของสมาชิกครอบครัว อาจยังไม่พร้อมในเวลานั้น ทั้งเรื่องอายุประสบการณ์หรือความสามารถซึ่งต้องใช้เวลาสั่งสม กันอีกช่วงหนึ่ง แผนรองรับ (Contingence Plan) ก็ต้องเตรียมไว้เช่น เปิดโอกาสให้มืออาชีพเข้ามาบริหารงานแทนสมาชิกถ้าสมาชิกยังไม่พร้อม ในต่างประเทศมีหลายเหตุการณ์ที่ต้องใช้มืออาชีพเข้ามาบริหารแทนสมาชิกมากมาย ในทางกลับกันครอบครัวใช้มืออาชีพเป็นผู้นำ แต่เมื่อมีเหตุการณ์เฉพาะหน้าบางอย่าง ครอบครัวก็มีการตัดสินใจส่งสมาชิกครอบครัวขึ้นแทนก็มี

สนใจสมัครสมาชิกสมาคม AFBE

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *