เคล็ดลับบริหารชื่อเสียง/ชื่อฉาว ของ 5 ตระกูลดัง เขาจัดการกันอย่างไร ?

เคล็ดลับบริหารชื่อเสียงและชื่อฉาวของ-5-ตระกูลดังระดับโลก

ในธุรกิจครอบครัวที่มีการค้าขายสินค้าตรงสู่มือผู้บริโภคนั้น เรื่องชื่อเสียงมีความสำคัญมาก เพราะหากสินค้านั้นๆ เกิดปัญหาขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นปัญหาที่มาจากสมาชิกครอบครัวเอง หรือมาจากเหตุสุดวิสัย หรือปัจจัยภายนอกที่ควบคุมไม่ได้ เมื่อเกิดเรื่องขึ้น ครอบครัวที่เป็นเจ้าของกิจการนั้นๆ ก็อาจจะโดนหางเลขไปด้วย ยิ่งธุรกิจไหนที่ใช้ชื่อของตระกูลเป็นชื่อแบรนด์ หรือตราสินค้าด้วยแล้ว ยิ่งควรต้องให้ความสำคัญมากขึ้นอีกหลายเท่าตัว

เพราะในสมัยนี้ข้อมูลทุกอย่างสามารถสืบค้นได้โดยง่ายว่าใครเป็นใคร ถ้าชื่อเสียงเสียหายก็จะกระทบไปทั้งตระกูล และเมื่อเกิดเรื่องขึ้นแล้วครอบครัวหรือธุรกิจควรจะต้องออกมาแสดงความรับผิดชอบให้เร็วที่สุด

ครอบครัวตระกูลมาร์ส (Mars) มีผลิตภัณฑ์หลายตัวที่เป็นที่รู้จักกันทั่วโลกนั่นคือช็อกโกแลต มาร์ส สนิกเกอร์ เอ็มแอนด์เอ็ม ธุรกิจเติบโตอย่างรวดเร็วเป็นที่รู้จักเพราะเป็นขนมหวานที่อย่างน้อยทุกคนต้องเคยกินกันมาแล้ว แต่ครอบครัวนี้ค่อนข้างเก็บตัวเงียบและไม่ค่อยออกสื่อ ทายาทรุ่นที่ 3 ขับรถแล้วหลับในพุ่งข้ามเลนประสานงากับรถที่แล่นสวนมาทำให้คู่กรณีแท้งลูกที่กำลังใกล้คลอด อีกคนเสียชีวิต ครอบครัวมาร์สได้เข้าไปดูแลครอบครัวผู้เสียหายเป็นอย่างดี และผู้เสียหายแถลงต่อศาลขอร้องศาลให้จำเลยไม่ต้องติดคุกจากการกระทำนี้  ในที่สุดเสียแต่ค่าปรับเท่านั้น

ด้านครอบครัวบีม (Beam) เจ้าของวิสกี้เบอร์เบิล จิม บีม ก็ใช้ชื่อตระกูลเป็นตราสินค้าที่สร้างชื่อให้กับตระกูลและของรัฐเคนทักกี ครอบครัวนี้ยึดถือค่านิยมที่ต้องส่งทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น และรักษากันไว้เสมอมา เหตุการณ์ไฟไหม้โรงหมักบ่มเหล้าที่ความเสียหายต่อเหล้าใหม่กว่า 40,000 บาร์เรล แล้วตามด้วยแอลกอฮอล์ไหลลงแม่น้ำโอไฮโอ ทำลายชีวิตปลามากมาย แต่สิ่งที่ครอบครัวเจอมากกว่านั้นคือ Social Network ที่กระหน่ำใส่ เช่น สินค้าต้องมีการขึ้นราคาแน่นอน หรือแม้กระทั่งว่า แจ๊ค แดเนียลส์เป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์นี้ และอีกสารพัด ซึ่งไม่เป็นความจริงทั้งนั้น

ในส่วนของตระกูลฮิลตัน (Hilton) ก็เป็นที่รู้จักกันดีในธุรกิจโรงแรมฮิลตัน ที่ดูเหมือนลูกหลานแต่ละคนมีเรื่องอื้อฉาว การแต่งงานของสมาชิกกับดารารุ่นใหญ่ Elizabeth Taylor ที่หย่ากันไม่ถึงปี จนมาถึงการใช้ชีวิตล่อแหลมเสื่อมเสียชื่อเสียงของ Paris Hilton ถึงแม้ว่า Paris Hilton จะไม่ได้เข้ามาบริหารโรงแรมของครอบครัวก็ตาม แต่ยังไงก็เป็นลูกหลานคนหนึ่งที่มีนามสกุล Hilton ทำอะไรที่ไหนคนมักตั้งคำถามว่า ทายาททำยังงี้ก็ได้เหรอ อยู่เป็นประจำ

เอสซี จอห์นสัน ที่มีผลิตภัณฑ์ใช้ในครัวเรือนมากมาย ครอบครัวนี้ใช้สโลแกนและประกาศชัดเจนว่า “เราคือธุรกิจครอบครัว” (We Are Family Business)  เพราะต้องการสื่อให้ทุกคนรู้ว่าเพราะเราเป็นธุรกิจครอบครัวเราจึงสร้างผลิตภัณฑ์ที่เข้าใจความต้องการของครอบครัวอย่างแท้จริง และตามด้วยค่านิยมของครอบครัวว่า “We can make the right decision, even if it’s not good for business.” ซึ่งแน่นอนการประกาศออกไปอย่างนี้ได้ ครอบครัวต้องมีความมั่นใจในสิ่งที่ต้องการสื่ออย่างเต็มที่ ซึ่งถ้าไม่สามารถทำได้อย่างที่พูดก็จะกลายเป็นผลลบต่อธุรกิจและตลอดจนภาพพจน์ด้านลบสู่ครอบครัวทันที

เรามาดูฝั่งญี่ปุ่นกันบ้าง หนึ่งในครอบครัวที่นำตระกูลมาตั้งเป็นผลิตภัณฑ์ของตัวเองนั่นคือ ตระกูลโตโยดะ เจ้าของผลิตภัณฑ์ที่ก้าวขึ้นมาติดอันดับต้นๆ ของโลก ปี 2009 ทายาทรุ่นที่ 3 คือนายอากิโอะ โตโยดะ ขึ้นมากุมบังเหียนเพื่อรับมือกับเศรษฐกิจโลกที่ตกต่ำ สถาบันการเงินไม่ปล่อยเงินกู้ให้ซื้อรถ ราคาน้ำมันถีบตัวขึ้นสูง และนายอากิโอะต้องเผชิญกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดมาก่อน เมื่อรถยนต์รุ่นหนึ่งประสบอุบัติเหตุทำให้มีผู้เสียชีวิตทั้งครอบครัว 4 คน โตโยต้านำโดยทายาทรุ่นที่ 3 นายอากิโอะ โตโยดะได้แสดงความรับผิดชอบทั้งหมดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีการเรียกรถ (Recall) ครั้งใหญ่สุดเข้ามาปรับปรุงคันเร่ง ระบบเบรกทั้งหมด นายอากิโอะได้กล่าวไว้ตอนหนึ่งว่า “ผมคือหลานของผู้ก่อตั้ง รถโตโยต้ามีชื่อผมติดอยู่ ถ้ารถยนต์เกิดความเสียหายนั่นหมายถึงผมเสียหายไปด้วย

ธุรกิจครอบครัวที่ทำธุรกิจที่ต้องเกี่ยวข้องกับผู้บริโภคโดยตรง สมาชิกครอบครัวทั้งที่บริหารและทำงานในธุรกิจ หรือไม่ได้ทำงานที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจครอบครัวก็ตามจะต้องพึงระลึกเสมอว่า ตัวเองก็เป็นส่วนหนึ่งของ “touch point” ที่สำคัญของธุรกิจ ผู้บริโภคไม่สนใจว่า คุณเกี่ยวข้องหรือไม่เกี่ยวข้องอย่างไร ทายาทที่ดีต้องมีความรับผิดชอบ และรักษาชื่อเสียงที่บรรพบุรุษได้สั่งสมภาพพจน์ ค่านิยมจนเป็นที่รู้จักและยอมรับของประชาชนในทุกวันนี้ สมาชิกทุกคนจะต้องรักษามันไว้ให้ดีที่สุด ดังนั้นการกำหนดบทบาทหน้าที่ของสมาชิกครอบครัวจะต้องมีการบัญญัติเรื่องนี้เป็นสำคัญคือ สมาชิกทุกคนจะต้องไม่ทำให้ชื่อเสียงครอบครัวและธุรกิจเสียหาย สมาชิกต้องรักษาชื่อเสียงของธุรกิจในคงอยู่และมีการพัฒนาไปในทางที่ดียิ่งขึ้น และสมาชิกจะต้องถ่ายทอดค่านิยมโดยการสั่งสอนลูกหลานต่อไป พ่อต้องสอนลูก พี่ต้องสอนน้อง และถ้าเกิดมีข้อผิดพลาดใดๆ ก็ต้องรีบแสดงความรับผิดชอบและบริหารจัดการด้วยความรวดเร็วก่อนที่ Social Media จะเริ่มทำการขุดคุ้ยอย่างรวดเร็ว เช่นในบางเคสที่เห็นกันอยู่ในปัจจุบัน

ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก

สนใจสมัครสมาชิกสมาคม AFBE

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *